ผิวคุณขาวแบบไหน??

ผิวขาวแบบอันตราย


1.   อันตรายจากกลูต้าไธโอน มีผลข้างเคียงโดยกลูต้าไธโอนมีฤทธิ์ไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งทำให้ เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาวทำให้ผิวขาวขึ้นใน เวลาอันสั้น จึงเกิดการแตกตื่นและนำกลูต้าไธโอนมาเป็นอาหารเสริมเพื่อชะลอวัย และหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู




2.   ฉีดให้ขาว อันตรายถึงชีวิต แพ้ยาจนช็อกถึงขึ้นเสียชีวิตเฉียบพลันหรือส่งผล ในระยะยาว เช่น สะสมในร่างกายส่งผลเสียต่อตับและไตได้ และทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังเนื่องจากผิวไวต่อแสงแดดเพราะเม็ดสีผิวถูก ทำลายเสริมกลูต้าไธโอนด้วยการกิน



3.   การทาครีมตัวขาวแบบไม่ปลอดภัย สารเคมีซึ่งเป็นที่นิยมในการนำมาเตรียมครีมที่ทำให้ขาว เนื่องจากเห็นผลได้เร็วไฮโดรควิโนนออกฤทธิ์โดยการการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง หรือที่เรียกว่า เมลานิน จึงมีผลทำให้ผิวขาวขึ้นได้ 





ผิวขาวแบบปลอดภัย


   1.   สครับผิวเป็นประจำ ด้วยการนำเนื้อมะขามเปียก ขมิ้น หรือว่านหางจระเข้ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งนำมาขัดผิวเบา ๆ ให้ทั่วร่างกาย ขณะอาบน้ำเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำให้ขาวใสขึ้นได้





   2.   เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงและปกป้องผิวที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง วิตามินบี 3 ส่วนครีมกันแดด ควรเลือกที่มีคุณสมบัติปกป้องรังสี UVA และ UVB โดยเลือกค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป ทาให้ทั่วถึงทั้งบริเวณผิวหน้าและผิวกาย



   3.   รับประทานผักผลไม้ต่อวันให้มากขึ้น (ประมาณ ½ กิโลกรัม) โดยเฉพาะ ส้ม มะนาว ฝรั่ง กล้วย มะเขือเทศ แอปเปิล มะละกอ แตงโมเพื่อช่วยเติมวิตามินซีให้ผิวดูกระจ่างใสได้ในเร็ววัน



   4.    ดื่มน้ำสะอาดต่อวันไม่น้อยกว่า 8 แก้ว เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส ชุ่มชื่นขึ้นได้ และยังช่วยขับของเสียที่ตกค้างสะสมอยู่ในร่างกายออกมาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย





   5.   รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระและเร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น กลูต้าไธโอนที่พบมากในนม อะโวคะโดและบรอกโคลี สารคอลลาเจนในปลาทะเลน้ำลึกและสาหร่าย กรดเอเอชเอจากผลไม้ต่าง ๆ  



   6.    ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้เลือดไหลเวียนและขับของเสียออกมาทางเหงื่อ รวมไปถึงควรพักผ่อนนอนหลับให้มากพอ เพื่อให้ผิวดูสดใส สดชื่นขึ้น




   7.    หลีกเลี่ยงแสงแดดด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิวได้ เช่น เสื้อแขนยาว คาร์ดิแกน กางเกงขายาว หรืออาจ




วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ

วิธีทําให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ


1. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน


          หลีกเลี่ยงการออกแดด ส่วนใหญ่สีผิวที่ดำขึ้นเกิดจากการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) รังสีของดวงอาทิตย์ หากคุณอยากมีผิวที่ขาวอย่างเป็นธรรมชาติต้องเริ่มจากการอยู่ในที่ร่มให้มากขึ้น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ทาครีมกันแดดที่มี SPFอย่างน้อย 30 แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า SPF 15 ไม่เพียงพอที่จะป้องกันรังสี UVA และ UVB รังสีที่เป็นอันตรายซึ่งยังคงทำร้ายผิวของคุณ ซึ่งผิวคุณจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อสามารถป้องกันรังสีได้เกิน 98%

2. การขัดผิว


        วิธีขัดผิว (Exfoliating) หมายถึง การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้ารากศัพท์ของมันมาจากคำว่า “foliage” ซึ่งแปลว่าใบพืช เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า อิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล่างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอก เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอกทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายในและป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ผิว หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าอยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้วเซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวาและดูเป็นสะเก็ด การขัดหน้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง

3. การล้างผิวด้วยน้ำมะนาว

   การล้างผิวด้วยน้ำมะนาว น้ำมะนาวช่วยให้ผิวขาวได้เป็นอย่างดีเพราะมีกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารขัดผิวและเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว เพียงทาที่ผิวจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นไม่ใช่แค่ที่บริเวณผิว แต่ยังลึกไปถึงใต้ผิวอีกด้วย กรดซิตริกในน้ำมะนาวยังสร้างเพิ่มที่ความเงางามชุ่มชื่นอีกด้วย(ถ้าคุณลโชมไปทั่วศีรษะจะทำให้ผมดูเงางามแล้วมีน้ำหนักมากขึ้น) เพียงแค่ใช้น้ำมะนาวราดผิว ผิวคุณก็จะขาวขึ้นช้าๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้
  •          ผสมน้ำมะนาวกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:1เพื่อไม่ให้น้ำมะนาวเข้มข้นเกินไปจนอาจระคายเคืองผิวหรือเกิดอาการแสบ หรือคันผิวได้
  •            จุ่มสำลีในส่วนผสมของน้ำมะนาวแล้วใช้มันเช็ดลงบนใบหน้า คอ หน้าอก แขนและทุกที่ที่คุณต้องการให้ผิวของคุณขาวขึ้น
  •         ปล่อยทิ้งไว้ 20 นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นหลีเลี่ยงการออกแดดเพราะน้ำมะนาวจะทำให้ผิวของคุณจะมีความไวต่อแสงแดด
  •            หลังจากนั้นทาครีมบำรุงผิวเพื่อกันไม่ให้สารที่ได้จากน้ำมะนาวซึมออกจากผิว
  •           ทำซ้ำสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่อย่าทำบ่อยจนเกินไปเพราะจะทำให้ผิวเสีย


3. การใช้ว่านหางจระเข้


        ใช้ว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ สารจากธรรมชาตินี้เป็นที่รู้จักในการช่วยรักษาอาการไฟไหม้ที่บริเวณผิว แต่ก็ยังมีสารที่เรียกว่าแอนทราควินโนนที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นโดยการกำจัดชั้นผิวที่ตายแล้ว คุณจะพบว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมของครีมและโลชั่นอยู่มากมาย แต่วิธีที่ดีสุดในการใช้งานว่านหางจระเข้คือการใช้ว่านหางจรเข้แบบสดๆ ซึ่งมีวิธีดังนี้

  •              โปะว่านหางจระเข้ลงบนผิวของคุณ
  •               ทิ้งไว้ 20 นาทีจนแห้งและผิวดูดซึมสารในว่านหางจระเข้แล้ว
  •     จากนั้นจะล้างออกหรือไม่ก็ได้ เพราะว่านหางจระเข้เป็นประโยชน์สำหรับผิวในหลาย ๆด้านและไม่มีโทษหากทิ้งไว้เป็นเวลานาน



4. มาร์คหน้าด้วยน้ำผึ่งมะนาว

     มาร์คหน้าด้วยน้ำผึ้งมะนาว เมื่อคุณผสมผิวกระจ่างใสผิวตามธรรมชาติที่มีสารช่วยขัดผิว ก็จะได้ mask ที่ ทำให้ผิวขาวใสยิ่งขึ้น โดยการขจัดเซลผิวที่หมองคล้ำและขัดผิวให้ชุ่มชื่น ลอง maskหน้าด้วยน้ำมะนาว น้ำผึ้ง (น้ำผึ้งจะชดเชยผิวที่แห้งจากผลของน้ำมะนาว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น) และข้าวโอ๊ตซักหนึ่งช้อนชา ทดลองใช้กับใบหน้าและทุกส่วนที่คุณต้องการ ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออก

§  ในขณะที่คุณล้างออกลองใช้นิ้วมือของคุณวนเป็นวงกลมเบา ๆ ข้าวโอ๊ตจะขัดชั้นบนสุดของผิวที่ตายแล้วออกจากใบหน้าของคุณเผยให้เห็นผิวที่ขาวใสข้างใน

    หากคุณมีผิวแห้งให้ใช้แตงกวาแทนมะนาว โดยใช้ส่วนผสมในปริมาณที่เท่ากันของน้ำแตงกวาและน้ำผึ้งบนใบหน้าและร่างกายเป็นเวลา 15 นาทีแล้วล้างออก




4. มาร์คหน้าด้วยโยเกิร์ตหรือนม


       มาร์คด้วยโยเกิร์ตหรือนม โยเกิร์ตและนมมีกรดอัลฟาไฮดรอกซีที่จะช่วยขัดผิว ผสมโยเกิร์ตปราศจากน้ำตาลหรือนมเข้ากับข้าวโอ๊ตแล้วคลุกให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นพร้อมกับใช้นิ้วมือวนเป็นวงกลมเบาๆขณะล้าง

  •         ในนมหรือโยเกิร์ตมีเอนไซม์ที่สำคัญที่ไม่มีในผิวซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่พอเหมาะก็จะช่วยทั้งทำให้ผิวขาว ขัดผิวและบำรุงผิวอีกด้วย
  •          ในกรณีที่ไม่มีข้าวโอ๊ตคุณสามารถใช้สำลีชุบนมหรือโยเกิร์ตแล้วเช็ดบริเวณที่ต้องการได้เลย



ปัญหาความอยากขาวของวัยรุ่น

วัยรุ่นทำไมถึงอยากขาว??




         ค่านิยมเรื่อง ความขาว” กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทยมากขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กและเยาวชน หากดูผิวเผินก็ไม่น่าจะมีปัญหา เด็กอยากผิวขาวก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็เนื่องเพราะสังคมในทุกระดับต่างก็ให้ ค่า” เรื่องความขาวจนเกินงาม
      ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมวัยรุ่นถึงยอมที่จะเสี่ยงเพื่อให้ได้ความขาว นั่นเป็นเพราะสื่อเป็นแหล่งข้อมูลชั้นยอดของวัยรุ่นและยังเกาะกุมหัวใจของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นละคร โฆษณา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าคุณขาว คุณจะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ทั้งหน้าที่การงาน การเข้าสังคม หรือแม้กระทั่งการมีแฟนยิ่งไปกว่านั้นสื่อยอดฮิตที่วัยรุ่นเห็นจะขาดเป็นไม่ได้คือสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิสระในการเผยแพร่ข้อมูลค่อนข้างมาก จึงเป็นตัวช่วยวัยรุ่นในการสืบค้นข้อมูลในสิ่งที่โทรทัศน์และวิทยุไม่สามารถบอกได้นอกจากนี้โครงสร้างร่างกายของวัยรุ่นโตเร็ว ไม่แปลกที่วัยรุ่นจะคิดว่าตนเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีสิทธิที่จะทำอะไรก็ได้ เพราะอย่างนี้วัยรุ่นถึงตกเป็นเครื่องมือของสื่อ โดยอาจขาดวิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร


วัตถุประสงค์


       เพื่ออยากให้วัยรุ่นในปัจจุบันได้รู้ถึงปัญหาสาเหตุของความอยากขาว    
      เพื่อให้วัยรุ่นรู้วิธีแก้ไขในการที่วัยรุ่นมีความอยากขาวมากในปัจจุบัน  

      เพื่อให้วัยรุ่นตระหนักถึงอันตรายของการใช้สารที่ทำให้ขาว    
      เพื่อให้วัยรุ่นรู้วิธีการขาวแบบใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ

ประโยชน์

     วัยรุ่นรู้จักวิธีการอยากขาวแบบถูกวิธี
     วัยรุ่นรู้จักประโยชน์และโทษของความอยากขาว
     วัยรุ่นทราบถึงอันตรายของการใช้ยาขาว
     วัยรุ่นรู้จักการขาวจากการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ


ปัญหา/สาเหตุ

      - ไม่มีความพึงพอใจในตัวเอง
      - ผิวขาวแล้วใส่เสื้อผ้าได้ทุกอย่างใส่แล้วดูดี อยากให้คนมองแล้วดูดี สวย
       กระแสนิยมมาแรง เพราะสื่อต่างๆทางโลกออนไลน์ว่าขาวแล้วดูดีจึงทำให้วัยรุุ่นอยากขาว           
       - อยากขาวเหมือนเกาหลี อยากดูดีเหมือนคนอื่นๆ          
       - คิดว่าตัวเองไม่ขาว จึงทำให้มีความอยากขาวเพิ่มมากขึ้น
ลิงก์ไปยัง powerpoint ปัญหาความอยากขาว